ผนังดินอัด - รับรีโนเวทบ้าน รับออกแบบภายใน รับออกแบบบ้าน (บริการครบจบไม่ทิ้งงาน)

ผนังดินอัด สร้างขึ้นจากวัสดุดินเหนียวเนื้อแข็ง ดินเหนียวเนื้อทรายละเอียด ทราย และน้ำ โดยส่วนผสมทั้งหมดจะถูกอัดรวมกันภายในรูปแบบผนัง

ผนังดินอัด สร้างขึ้นจากวัสดุดินเหนียวเนื้อแข็ง ดินเหนียวเนื้อทรายละเอียด ทราย และน้ำ โดยส่วนผสมทั้งหมดจะถูกอัดหรือกระแทกรวมกันภายในรูปแบบผนัง และเป็นรูปแบบผนังแบบดั้งเดิมชนิดหนึ่ง ทั้งนี้ส่วนผสมของเนื้อดินเหนียวและดินเหนียวทรายละเอียดรวมกันไม่ควรเกิน50% และมีขนาดมวลคละไม่ใหญ่กว่า 1/4″ (610) และน้ำที่ใช้ผสมจะต้องไม่มีความเค็ม

• ผนังดินอัด ใช้แบบหล่อผนังที่สามารถเลื่อนขึ้นโดยมีความสูง 24″ ถึง 36″ (610 ถึง 915) และยาว

10′ ถึง 12′ (3,050 ถึง 3,660)

• ส่วนแบบเข้ามุม จะใช้แบบรูปร่างเข้ามุมโดยเฉพาะเนื้อดินที่มีความเปียกชื้น (ค่าความชื้นประมาณ 10%)จะถูกอัดกระแทกด้วยแรงคนหรือเครื่องจักรลงในแบบแต่ละชั้นมีความหนาสูงไม่เกิน 6″ (150) และแต่ละชั้นควรมีการเชื่อมต่อกัน

• ผนังดินอัดจะต้องแห้งสนิทครบตามเวลาที่กำหนดจึงจะสามารถก่อเป็นผนังรับน้ำหนักได้

• ผนังที่ทําจากวัสดุดินแข็งหรือดินอัดจะมีกําลังรับแรงดึงแต่มีกำลังรับแรงอัดอย่างน้อย

300 psi (14 kPa)

• กำลังรับแรงอัดของก้อนวัสดุดินแข็งหรือดินอัดวางอยู่เป็นก้อนรวมตัวกันของผนังแต่ละด้าน

• ถึงแม้ก้อนดินจะมีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันความร้อนได้ไม่ดีเท่าฉนวน แต่ก้อนดินสามารถกักเก็บความร้อนในตัวได้ดี

ข้อกำหนดทั่วไป

•ข้อกำหนดทั่วไปของการก่อสร้างผนังดินแข็งกับผนังดินอัดมีความคล้ายคลึงกัน

•คานอเสช่วยถ่ายเทและกระจายน้ำหนักจากหลังคา ตลอดจนช่วยยึดด้านบนของผนัง และแบ่งชั้นของแต่ละช่วงชั้นของอาคารหลายชั้นที่อาจจะมีความหนาของผนังที่ไม่เท่ากัน ตามข้อกำหนดอัตราส่วนเทียบกับความสูงของผนังคานอเสควรเป็นคานที่ได้รับการเสริมเหล็กเพื่อรองรับแรงดึงให้ได้ โดยเฉพาะบริเวณหัวมุมหักต่างๆ

•พุกไม้ยึดฝังในผนังเพื่อให้วงกบ หน้าต่าง และประตูมายึดติดอีกทีหนึ่ง

•พื้นฐานรากและแนวหลังคา ยื่นออกมาคลุมเพียงพอที่จะป้องกันน้ำ และยืดอายุโครงสร้างผนังดิน

ความหนาขั้นต่ำของผนัง

• 8″ (205) สำหรับผนังภายในไม่รับแรง

• 12″ (305) สำหรับผนังรับแรงของอาคารชั้นเดียวหรือมีความสูงไม่เกิน 12′ (3,660)

• 18″ (455) สำหรับผนังรับแรงชั้นแรกของอาคาร 2 ชั้นหรือผนังที่สูงถึง 22′ (6,705) และความหนาของผนังชั้นที่สองเป็น 12″ (305)

• ให้มีผนังแนวขวางช่วยยึดทุกๆ ระยะห่างไม่เกิน 24′ (7,315)

• ช่องเปิดหน้าต่างและประตูควรอยู่ห่างจากมุมอาคารไม่น้อยกว่า 2′ ถึง 4 ” (710)

• ความยาวช่องเปิดในผนังดินไม่ควรยาวกว่า 1% ของความยาวผนัง

ข้อดีของผนังดินอัด

ข้อดีของผนังดินอัดมีหลายประการดังนี้:

1. ความแข็งแรงและทนทาน: ผนังดินอัดมีความแข็งแรงและทนทานต่อการกวนตกทางธรรมชาติ เช่น แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว และแรงลม นอกจากนี้ ผนังดินอัดยังมีความทนทานต่อภาวะอากาศที่แปรปรวน เช่น อุณหภูมิสูงหรือต่ำ และความชื้นสูง

2. สิ่งแวดล้อมเป็นมิตร: การสร้างผนังดินอัดใช้วัสดุธรรมชาติที่มีอยู่ในสภาพแวดล้อมโดยตรง เช่น ดิน หิน และน้ำ ไม่ต้องใช้วัสดุที่ผลิตขึ้นเป็นปัจจัยหลัก นอกจากนี้ การสร้างผนังดินอัดไม่ต้องใช้เครื่องมือหรือกรรมวิธีการผลิตที่ทำให้เกิดมลพิษหรือส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย

3. ความสวยงามและการออกแบบอย่างคลีน: ผนังดินอัดมีลักษณะทางธรรมชาติและเกิดจากกระบวนการสร้างที่เป็นศิลปะ สามารถปรับแต่งรูปร่างและลวดลายตามความต้องการ และสามารถผสมผสานกับธรรมชาติได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ผนังดินอัดมีความสวยงามและออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

4. คุ้มค่าทางเศรษฐกิจ: ผนังดินอัดมีต้นทุนการสร้างที่ต่ำกว่าวัสดุสร้างอื่นๆ เช่น ไม้หรืออิฐ สามารถใช้วัสดุที่มีอยู่ในสภาพแวดล้อมโดยตรงและไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการนำเข้าวัสดุ นอกจากนี้ ผนังดินอัดยังมีความต้านทานต่อการกัดกร่อนและความสึกหรอในระยะยาว ทำให้มีความต้องการการบำรุงรักษาที่น้อยกว่าวัสดุสร้างอื่นๆ

5. เสียงและความกันเสียง: ผนังดินอัดมีคุณสมบัติในการกันเสียงที่ดี สามารถลดเสียงรบกวนจากภายนอกและเสียงจากภายในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สรุปได้ว่า ผนังดินอัดมีความแข็งแรง ทนทาน สวยงาม มีความสมดุลกับสิ่งแวดล้อม และมีต้นทุนต่ำ ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการสร้างและออกแบบบ้านหรือสิ่งก่อสร้างอื่นๆ

เราเป็นมากว่าผู้รับเหมาทั่วไปเพราะเรามีความชำนานและความโดดเด่นที่เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใครในหลากหลายสไตล์เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เราไม่อยากให้ท่านเสียเวลาเปล่า กับผู้รับเหมาทั่วไปที่ไม่มีความรับผิดชอบทิ้งงานและไม่มีประสบการณ์ที่มากพอ แต่ถ้าลูกค้าต้องการที่จะหาผู้รับเหมาที่ดีและมีประสบการณ์มีความชำนานและมีทีมงานจากหลายๆฝ่ายละก็ สามารถทักหาเราเพื่อที่เราจะได้ปรึกษาและให้คำแนะนำแก่ท่านได้ เพราะเราเชื่อว่าลูกค้าเป็นเหมือนพี่น้องเราจึงให้ความสำคัญและใส่ใจในการดูแลในแบบฉบับครอบครัว